ประการที่ ๑ บนพื้นราบของผืนหินทรายจะมีหินทรายผิวขรุขระปรากฏอยู่ซึ่งชาวบ้านเรียกว่า"หินหนามหน่อ"ซึ่งมีรูปร่างประหลาดทั้งขนาดเล้ดและขนาดใหญ่ บางก้อนทอดตัวนอนอยู่เหมือนไดโนเสาร์ บางก้อนปรากฏเป็นแท่นเหมือนบัลังก์ บางก้อนมีแง่งโผล่ออกมาเหมือนหัวพญานาค (ตามจินตนาการของเรา) ประการที่ ๒ มีพืชนิหนึ่งซึ่งปัจจุบันหายากมาก คือ "ต้นหม้อข้าวหม้อแกงลิง" ขึ้นอยู่เป็นหย่อม ๆ จากการไปสำรวจครั้งสุดท้ายพบเห็นเพียงไม่กี่กอ คงมีใครคนหนึ่งขุดไปขาย จึงนับว่าพืชชนิดนี้ตกอยู่ในสถานการณ์เสี่ยงที่จะหายไปจากภูเขาสวนกวาง จะมีใครสักแรงไหมที่ลุกขึ้นมาพิทักษ์คุ้มครองช่วยพวกเรา
ประการที่ ๓ มีพืชอีกชนิดหนึ่ง ที่มีคุณค่าด้านสมุนไพร และไม้ประดับตกแต่ง ชื่อที่ชาวบ้านเรียกทั่วไปคือ "ชาหนวดฤาษี" ทรวดทรงรูปร่างเหมือนต้นหลิว ใบมีขนาดเล็กเรียวสั้นเกาะกันเป็นกลุ่ม ลำต้นแข็งแรง ไม่ผลิใบ เมือนำในมาต้มจะทำให้น้ำมีสีแดง และรสชาติฝาดนิด ๆ เหมือนรสชา แต่อร่อย(กว่า)
ประการที่ ๔ เป็นพื้นที่ที่พืชชนิดออกดอกในช่วงปลายฝนต้นหนาวมีอยู่หลายชนิด ทั้งชมพูนุช สร้อยสุวรรณา เอนอ้า หมอกบ่อเหือด เป็นต้นประการที่ ๕ เป็นที่ตั้งของถ้ำซ่อนสมบัติ มีหลายคนเคยพบเครื่องเงินทองถูกน้ำพัดพาออกมาจากถ้ำ กลุ่มถ้ำผาหินทรายบริเวณนั้นจึงถูกเรียกชื่อว่า"ถ้ำสมบัติ
พื้นที่ที่นำเสนอ อยู่ห่างจากวัดตาดฟ้าประมาณ ๘๐๐ เมตร การเดินทาง ให้นำรถไปจอดไว้ที่ถ้ำกินรี แล้วเดินทางข้ามฝายไปเนเหนือ ระหว่างทางก็จะพบพืชแปลกๆหลายชนิดโดยเฉพาะ ตุ้นหมากหมุ่น จะออกดอกช่วงเดือนเมษายน ลูกแก่สุก
พื้นที่ที่นำเสนอ อยู่ห่างจากวัดตาดฟ้าประมาณ ๘๐๐ เมตร การเดินทาง ให้นำรถไปจอดไว้ที่ถ้ำกินรี แล้วเดินทางข้ามฝายไปเนเหนือ ระหว่างทางก็จะพบพืชแปลกๆหลายชนิดโดยเฉพาะ ตุ้นหมากหมุ่น จะออกดอกช่วงเดือนเมษายน ลูกแก่สุก
ประมาณออกพรรษา ลักษณะพิเศษ คือนำลูกของ"หม่น"มาคั่วให้สุก จะมีกลิ่นหอม รสชาติหวานมัน พืชชนิดนี้ ผู้เขียน(ครูคำมี) เคยกินตั้งแต่เป็นเด็ก พึ่งมาได้ชิมอีกทีก็เมื่อไม่กี่ปีนี้เอง ซึ่งต้องมีการอนุรักษ์ให้คงอยู่สืบไป
พื่น้องครับ สิ่งที่บรรยายมา อะบายภาพที่เห็นด้วยตาเพียงน้อยนิด เพราะเราคงไม่ใช่นักเขียนมืออาชีพ จึงอยากเชิญชวนให้ไปพบด้วยตัวของท่านเอง
พื่น้องครับ สิ่งที่บรรยายมา อะบายภาพที่เห็นด้วยตาเพียงน้อยนิด เพราะเราคงไม่ใช่นักเขียนมืออาชีพ จึงอยากเชิญชวนให้ไปพบด้วยตัวของท่านเอง